วิธีการเล่นการ์ดเกม Future Card Buddyfight

 

---

วิธีการเล่นการ์ดเกม Future Card Buddyfight

future-card-buddyfight-flag-card

ผู้เล่นจะต้องจัดเตรียมเด็คการ์ดจํานวน 52 ใบ ที่จะต้องมีการ์ดประจําโลกของเรา (Flag Card) ด้วยเสมอ 1 ใบ ซึ่งมีผลต่อการเล่นการ์ดทั้งเกม และมี การ์ดอื่น ๆ อีก 51 ใบ ใส่ซ้ําได้ไม่เกิน 4 ใบต่อแบบ และตัวนับพลังชีวิต ซึ่งจุดมุ่งหมายของเกมนี้คือ ใครที่มีพลังชีวิตเริ่มต้นจาก 10 เหลือ 0 ก่อนจะ เป็นฝ่ายแพ้ไป โดยการ์ดเกม Future Card Buddyfight มีการ์ด 4 ประเภท ได้แก่

future-card-buddyfight-monster-card

Monster Card – จะมีค่าพลังโจมตีที่ใช้คําานวณในการโจมตีใส่มอนสเตอร์อีกฝ่ายหนึ่ง (Power) ค่าความเสียหายที่โจมตีใส่ผู้เล่น (ATK) และค่า พลังความเสียหายทีมอนสเตอร์รับได้ก่อนที่จะถูกทาลาย (DEF) ที่ระบุไว้ตรงขอบซ้ายส่วนกลางของการ์ดตามล่าดับ เช่น 5000/3/5000 และจะมีค่า Level ของการ์ด Monster ปรากฏทีมซ้ายบนของการ์ด โดยมีทั้งหมด 4 ขนาด ได้แก่ 0-1-2-3 โดยไม่สามารถลงการ์ด Monster พร้อมกันจน เกิน 3 และการ์ดมอนสเตอร์บางใบจะต้องมีเงื่อนไขในการลงมา เช่น จ่ายค่า Gauge หรือทิ้งการ์ดบางใบ และมีเงื่อนไขพิเศษอื่น ๆ ที่จะระบุไว้บนการ์ด

future-card-buddyfight-spell-card

Spell Card – เป็นการ์ดที่มีผลต่อเกมตามที่มีการระบุไว้ในการ์ด โดยสามารถวางไว้ที่จุดใดเวลาร่ายลงมาก็ได้ มีความสามารถทั้งการช่วยโจมตีคู่ ต่อสู้หรือปกป้องตนเอง และจะเกิดผลเพียงแค่ครั้งเดียวแล้วต้องลงใน Drop Zone ทันที

future-card-buddyfight-item-card

Item Card – เป็นการ์ดที่เอาไว้ใช้ติดคู่กับ Flag Card มีค่าพลังโจมตีที่ใช้คําานวณในการโจมตีใส่มอนสเตอร์อีกฝ่ายหนึ่ง (Power) และค่าความเสีย หายที่โจมตีใส่ผู้เล่น (ATK) ปรากฏอยู่บนการ์ด ซึ่งอยู่บนตําแหน่งและมีเงื่อนไขในการน่าการ์ดลงมาเช่นเดียวกับ Monster Card future-card-buddyfight-impact-card

Impact Card – จะมีเงื่อนไขของการ์ดที่ทํางานได้ตามที่ระบุไว้ในการ์ด โดยการ์ดประเภทดังกล่าวร้ายจากบนมือได้เท่านั้นใน Final Phase

Impact Card – จะมีเงื่อนไขของการ์ดที่ทํางานได้ตามที่ระบุไว้ในการ์ด โดยการ์ดประเภทดังกล่าวร้ายจากบนมือได้เท่านั้นใน Final Phase

การ์ดเกม Future Card Buddyfight! มีขั้นตอนการเล่นดังต่อไปนี

แผนผังตําแหน่งการวางการ์ดของการ์ดเกม Future Card Buddyfight

1. ผู้เล่นจะต้องคว่ําหน้า Flag Card ไว้บนตําาแหน่งตรงกลางใกล้ตัวเรา และเลือกการ์ดมอนสเตอร์อีกใบหนึ่งจากเต็คมาเป็น Buddy (คู่หู) ของ เรา โดยคว่ําาหน้าการ์ดไว้บนตําแหน่งมุมล่างขวาเยื้องไปจากตําาแหน่งของ Flag Card จากนั้นจึงสับเด็คการ์ดและจั่วการ์ดขึ้นมา 6 ใบ หลังจากจั่วการ์ด 6 ใบแล้ว ผู้เล่นจะต้องหยิบการ์ดบนสุด 2 ใบแบบคว่ําาหน้าออกมาวางไว้ในตําาแหน่งเกจ์ (Gauge) ด้านซ้ายมือ ซึ่งเป็น แหล่งพลังงานที่จะทําให้การ์ดต่าง ๆ ทํางานได้ โดยใช้พลังจาก Gauge มากน้อยแตกต่างกันไป และตัดสินใจว่าใครจะเป็นผู้เริ่มเล่นก่อน ตามแต่วิธีการที่จะตกลง 3. เมื่อพร้อมทุกอย่างแล้ว ผู้เล่นจะต้องขานก่อนว่า “Open the flag” แล้วจึงเปิดการ์ด Flag และการ์ดที่เราเลือกให้เป็น Buddy หงายหน้าขึ้น มาทั้งสองฝ่าย จากนั้นจึงเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการต่อสู้

ล่าดับขั้นตอนการต่อสู้

ขั้นตอนเริ่มต้น (Start Phase)

1. ผู้เล่นจะต้องกลับมาตั้งการ์ดมอนสเตอร์ที่ใช้ไปแล้วทุกครั้ง

2. จั่วการ์ด 1 ใบ ยกเว้นผู้เล่นคนแรกในตาแรกทีเล่น

3. ผู้เล่นสามารถเลือกลงการ์ด 1 ใบจากมือไปที่บริเวณ Gauge เพื่อเพิ่มพลังในเกจ โดยหากผู้เล่นเลือกลงการ์ดในเกจ ให้จั่วการ์ดใบใหม่ขึ้น

มาอีก 1 ใบ

ขั้นตอนหลัก (Main Phase) ผู้เล่นสามารถเลือกทําสิ่งต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้

1. เลือกลงมอนสเตอร์จากในมือตนเองให้อยู่ในตําแหน่ง ซ้าย – กลาง – ขวา ด้านหน้า Flag Card โดยอยู่ในสนามได้สูงสุดเพียง 3 ใบและอยู่ ได้เพียงตําาแหน่งละใบเท่านั้น และลงมอนสเตอร์ได้ตามเงื่อนไขทีการ์ดใบนั้น ๆ ระบุไว้ โดยทีเลเวลรวมทั้งหมดของมอนสเตอร์ในสนามจะ ต้องไม่เกิน 3

2. ผู้เล่นสามารถเรียกใช้ Buddy Call เพื่อส่ง Buddy ที่มีชื่อเดียวกับ Buddy ที่มีอยู่แล้วบนสนามให้ลงมาจากมือ โดยใช้ Buddy Call ได้เพียง 1 ครั้งต่อเกม โดยผู้เล่นจะต้องเลือกการ์ด Buddy จากการ์ดที่อยู่ในมือของตนเองลงในตําาแหน่ง Buddy แบบตะแคง และน่าการ์ดที่อยู่ใน ตําาแหน่ง Buddy เติมไปสู่ตําาแหน่ง Monster จากนั้นจึงจ่ายค่าเรียก Buddy ตามค่า Gauge ที่ต้องการ และเมื่อเรียกเรียบร้อยแล้วผู้เล่นจะได้ พลังชีวิตเพิ่ม 1 แต้ม

3.

ร่ายการ์ดเวทมนตร์จากในมือของตนเองลงสู่สนามและใช้ จากนั้นทิ้งลง Drop Zone ทันที

โดยทิ้ง Item Card ใบเดิมไป

4. ติดอาวุธ (Item Card) ให้ Flag Card โดยจ่ายค่า Gauge และสามารถติดอาวุธได้เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น แต่ผู้เล่นสามารถเปลี่ยนอาวุธใหม่ได้ 5. ใช้ความสามารถ Activate (กระตุ้น) โดยหากการ์ดมีความสามารถที่มี [Act] ลงสนาม สามารถใช้ความสามารถของการ์ดนั้นเมื่อลงสนาม เรียบร้อยแบบไม่จํากัดจํานวนครั้งที่ใช้

ขั้นตอนการต่อสู้ (Attack Phase) โดยผู้เล่นที่ได้เล่นก่อนในตาแรกจะสามารถโจมตีได้เพียงครั้งเดียว

1. เลือกมอนสเตอร์หรือไอเท็มที่จะใช้โจมตี โดยจะใช้ไอเท็มโจมตีไม่ได้หากมีมอนสเตอร์ของฝ่ายเราวางในตาแหน่งกลางของเรา โดยผู้เล่น สามารถเลือกมอนสเตอร์เพื่อใช้โจมตีได้ตั้งแต่ 1, 2 ใบ หรือมากกว่า 2 ใบขึ้นไป หรืออาจใช้ใช้มอนสเตอร์ 1 ใบ และไอเท็ม 1 ใบในการ โจมตีแบบต่อเนื่อง (Combo) โดยหากใช้การ์ด 2 ใบขึ้นไปพร้อมกัน พลังโจมตีของการ์ดทุกใบจะถูกรวมกันและคิดเป็นค่าเดียว

โจมตีมาวางขวางไว้ตรงกลาง

2. ผู้เล่นเลือกเป้าหมายในการโจมตีว่าจะโจมตีมอนสเตอร์หรือผู้เล่น โดยจะเลือกเป้าหมายเป็นผู้เล่นได้ก็ต่อเมื่อไม่มีมอนสเตอร์ของผู้เล่นที่ถูก 3. เมื่อเลือกโจมตีมอนสเตอร์ ให้เปรียบเทียบค่าพลังโจมตีมอนสเตอร์ (Power) ของฝ่ายที่โจมตีกับพลังป้องกัน (Def) ของฝ่ายตั้งรับ หากค่า Power มีจํานวนเท่ากันหรือมากกว่า Def ของอีกฝ่าย มอนสเตอร์ฝ่ายตั้งรับจะถูกท่าลายและลงใน Drop Zone ไป

4. หากเลือกโจมตี สผู้เล่นและไม่มีมอนสเตอร์ตรงกลางมาขวางทางอยู่ ผู้เล่น ถูกโจมตีจะต้องโดนลดพลังชีวิตตามค่า ATK มองการ์ต - ผู้เล่นสามารถขัดขวางการโจมตี (Counter) โดยใช้การ์ดเวทมนตร์หรือมอนสเตอร์ทีมีความสามารถ [Counter] ระหว่าง นตอนการ โจมตีของฝ่ายตรงข้าม Main Phase, Attack Phase, Final Phase ของฝ่ายเราและสามารถใช้ได้เพียงครั้งเดียวต่อการเล่น 1 ตา

5. ถ้ายังมีมอนสเตอร์ของฝ่ายเราที่เหลืออยู่และยังไม่ได้ใช้โจมตี สามารถเลือกโจมตีใหม่ได้จนกว่าจะใช้หมด

ขั้นตอนการสิ้นสุด (Final Phase)

1. ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ Impact Card ในการทําให้เกมเกิดผลตามคําสั่งของการ์ดได้ ด้วยการลงการ์ดจากมือ โดยหากผู้เล่นไม่สามารถใช้ งาน Impact Card เนื่องจากมีเงื่อนไขไม่ครบตามทีการ์ดระบุ ขั้นตอนการเล่นจะจบลง และเปลี่ยนให้ผู้เล่นอีกฝ่ายหนึ่งเล่นการ์ดตามขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้นสลับกันไป

ผู้เล่นที่สามารถโจมตีผู้เล่นจนพลังชีวิตเหลือ 0 ได้ก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ หรือหากเด็ดใครถูกใช้จนหมดลงก่อนจะเป็นฝ่ายแพ้ทันที

ความสามารถพิเศษอื่น ๆ ของการ์ด

Penetrate - เมื่อการ์ดที่มีความสามารถ Penetrate ถูกสั่งให้โจมตีและสามารถทําาลายการ์ดมอนสเตอร์ที่อยู่ตรงกลางได้ ผู้เล่นที่ถูกโจมตีจะได้รับ ความเสียหายจากการ์ดที่มีความสามารถ Penetrate โดยตรงด้วย และสามารถใช้ความสามารถร่วมโจมตี (Link) คู่กันได้ แต่จะคิดความเสียหายจาก การ์ดที่มีความสามารถ Penetrate เท่านั้นในกรณีทีท่าลายมอนสเตอร์ตรงกลางสาเร็จ

Soulguard-ผู้เล่นสามารถเรียก soulguard เพื่อปกป้องมอนสเตอร์ไต้ โดยต้องขานว่าจะเลือกลง Monster ที่มีความสามารถ Put into soul ใด ๆ มาเสริมในมอนสเตอร์ที่เราต้องการ โดยจะมีประโยชน์ในการเลือกให้ soulguard ตายแทน Monster ตัวนั้น หรือทิ้งการ์ดจากการที่ Soulguard รับ effect แทน Monster ที่ติด Soulguard ตัวนั้น ๆ

Set – เป็นความสามารถของ Spell Card ที่สามารถร่ายและเกิดผลต่อเนื่องจนกระทั่งจบเกมหรือการ์ดใบนั้น ๆ ยังอยู่ได้ โดยสามารถ Set การ์ดได้

ไม่จํากัดจํานวน

Move - เป็นความสามารถของ Monster Card ที่หากมอนสเตอร์มีความสามารถนี้จะสามารถย้ายการ์ดไปพื้นที่ว่างได้ด้วยตัวเองในตอนต้นของช่วง การโจมตีทั้งของฝ่ายเราและฝ่ายคู่ต่อสู้

Double Attack – เป็นความสามารถที่ใให้มอนสเตอร์โจมตี 2 ครั้งติดต่อกัน โดยคิดพลังโจมตีเท่ากันทั้งสองครั้งและไม่น่าพลังมารวมกัน ยกเว้น การผสมผสานความสามารถในการ Link หรือใช้ [Act] ในครั้งใดครั้งหนึ่ง

Counter Attack – หากมอนสเตอร์ที่มีความสามารถ Counter Attack ถูกโจมตีแล้วไม่ถูกท่าลาย มอนสเตอร์ที่ถูกโจมตีที่มีพลังมากกว่าหรือ เท่ากับพลังป้องกันของการ์ดมอนสเตอร์ฝ่ายตรงข้ามจะสามารถโจมตีกลับทันทีได้ และหากฝ่ายตรงข้ามโจมตีด้วยการ Link มา ผู้เล่นจะสวนกลับได้ โดยการเลือกโจมตีการ์ดใบใดใบหนึ่งที่ถูก Link ไว้

จัดทําโดย

นามมินทร์ พันธะพจน์ ม.6/2 เลขที่ 1